อบเอนไซม์รำข้าว
What is rice bran enzyme bath ?
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a.jpeg)
ให้บริการอบเอนไซม์รำข้าวจากธรรมชาติ 100% เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยี (ตามสิทธิบัตรหมายเลข 5966138) ตามวิถีของมาสเตอร์ทาเคอุจิ “Nuka Heaven” แห่งเมืองมิกิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น
“ทำเลือดให้สะอาดเพื่อการดูแลแบบองค์รวม : ปลดล็อกศักยภาพในการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บนับไม่ถ้วน”
เชื่อกันว่าการทำให้เลือดสะอาดเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย กล่าวกันว่าขณะเข้าอบเอ็นไซม์สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ สิ่งสำคัญคือต้องชี้แจงว่าโรคต่างๆ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยตรงด้วยการอบเอ็นไซม์ การอบเอ็นไซม์เพียงช่วยทำความสะอาดเลือดเท่านั้น เมื่อเลือดสะอาด อวัยวะต่างๆ ก็กลับมามีชีวิตชีวา เมื่อสุขภาพของอวัยวะดีขึ้น ความผิดปกติในร่างกายมักจะแก้ไขตัวเองโดยอัตโนมัติ
ในการแพทย์แผนจีน มักกล่าวกันว่า “เลือดที่ไม่สะอาดเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ มากมาย” ต่อไปนี้คือตัวอย่างกรณีที่อาการเจ็บป่วยดีขึ้นด้วยการอบเอ็นไซม์ของ SALA BRAN มีหลายกรณีที่มะเร็งหายไปหลังการอบเอ็นไซม์อย่างเข้มข้น ลูกค้าที่กลับมาอบเอ็นไซม์ซ้ำจำนวนมากรู้สึกถึงผลดีที่ได้รับ แต่โปรดเข้าใจว่าผลของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2024/01/banner-2-1024x122.jpg)
วิดีโอวิธีใช้งานของบ่ออบเอนไซม์รำข้าว ศาลาบรัน เอกมัย
เมื่อคุณอบฝังตัวเองลงใน “เอนไซม์รำข้าว” ซึ่งได้มาจากการหมักบ่มรำข้าวด้วยพลังของจุลินทรีย์ (กลุ่มให้คุณ) และเอนไซม์ที่จุลินทรีย์หลั่งออกมา ทำให้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 60 องศาอันเกิดจากการกระตุ้นและการแพร่กระจายของจุลินทรีย์ความอุ่นร้อนเกิดจากการเสียดสีสั่นสะเทือนเคลื่อนไหวภายใน หากทำให้คุณสัมผัสความนุ่มชุ่มชื้นผิวกายสบายๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศา C
ประมาณการว่ามีจุลินทรีย์ถึง 8 พันล้านตัวต่อเอนไซม์รำข้าวในบ่ออบหนึ่งกรัมหากเอนไซม์ถูกหลั่งออกมาอย่างเต็มที่มันจะทำให้เกิดการสื่อสารกับจุลินทรีย์ 100 ล้านล้านตัวที่อยู่ภายในลำไส้ของเราเพื่อดึงเอาอุณหภูมิหรือความอุ่นร้อนแสดงถึงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่เราไม่เคยได้สัมผัสก่อนความอุ่นร้อนนี้จะรู้สึกได้ไปถึงกระดูกเป็นความอุ่นละมุนที่คุณจะสัมผัสได้มันแตกต่างจากการร้อนวูบวาบอยู่เพียงผิวหนังอย่างที่เคยได้จากการแช่น้ำร้อนหรือการอบไอร้อนใดๆ ซึ่งเป็นการใส่พลังงานความร้อนจากภายนอกเข้าไปอย่างชัดเจนมาก
หลังผ่านไป 10 นาที เหงื่อจะถูกหลั่งออกมาทั่วร่างกาย (จากหนังศรีษะจรดปลายเท้า) อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้น สารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายมานานหลายปีจะถูกขับออกมา ทำให้เกิดประสิทธิภาพการบำบัดรักษาตัวเองจากฐานราก ส่งผลให้ร่างกายอบอุ่นจากภายในก่อเกิดพลังธรรมชาติในการรักษาตัวเองเพิ่มสูงขึ้น
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/6326FE8C-35D8-4BF5-984F-2F9D005C5E34-1-1024x765.jpeg)
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/A5AB3868-F473-4A6B-AEB0-C6C2680637FC-1024x765.jpeg)
บ่อมีความลึก 1.50 เมตร
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
ความลึกของบ่อทำให้สภาพแวดล้อมของจุลินทรีย์มีความเสถียรและสามารถดึงพลังงานออกมาใช้ได้ถ่านมีโครงสร้างโมเลกุลเป็นรูพรุนถูกบรรจุไว้รอบด้านและภายในบ่อเอนไซม์ที่ลึก 1.50 เมตร เพื่อทำหน้าที่กำจัดกลิ่นและทำให้การดำรงชีพของแบคทีเรียแอโรบิค (Aerobic bacteria) คงความบริสุทธิ์และมีเสถียรภาพ
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/A1E5690E-B0BF-4CE7-9503-713EB47B15E4-1024x683.jpeg)
อาจารย์ผู้อาวุโส
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
ภาพด้านบน เมื่อสปาเอนไซม์รำข้าวที่เชียงรายเริ่มทำการหมักบ่ม เป็นภาพของมาสเตอร์ทาเคอุจิที่กำลังอธิบายว่าต้องมีความลึกอย่างน้อย 80 ซม. และรำข้าวต้องถูกหมักเป็นเวลานานจึงทำให้มีสีคล้ำดำ จากนั้นอาจารย์ได้นำหัวเชื้อเอนไซม์ที่นำมาจากหมักรุ่นแรก จากญี่ปุ่น โรยลงบนรำข้าวที่พึ่งเริ่มหมักของเชียงราย (แต่อุณหภูมิก็ใกล้ 60 องศา C แล้ว) เพื่ออธิบายความต่างของสี ตอนแรกเป็นรำข้าวสีอ่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป สีของรำข้าวก็จะกลายเป็นสีเดียวกันกับหัวเชื้อตั้งต้นที่มาจากญี่ปุ่น เอนไซม์รำข้าวของสปาศาลารำนั้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ก็มีสีใกล้เคียงกับฮัทโจ มิโสะ(หรือมิโสะสูตรดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไอจิที่หมักบ่มมานานหลายร้อยปีแล้ว)
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/IMG_6498-1024x768.jpeg)
กลิ่น เปลี่ยนเป็น สัมผัสความหอมกรุ่น
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
บางที เมื่อคุณนึกถึงการอบเอนไซม์ กลิ่นของเอนไซม์รำข้าวที่ศาลารำ (Salabran) นั้นมีกลิ่นหอมคล้ายโยเกิร์ต หรือโกโก้ บางทีคล้ายขนมปังที่อบเสร็จใหม่ๆ แล้วแต่ช่วงเวลา
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/D9D7DF49-5B5A-4A45-B804-40ECBC5C6E4C-e1640122297746-768x1024.jpeg)
พลังน้ำพร้อมแรงด้น เปลี่ยนเป็น
น้ำที่มีพลังชีวิตสูง
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
น้ำอันเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สปาศาลารำใช้นั้นยังสร้าง “พลัง” โดยมีแรงดันสูงจากเครื่องกระตุ้นน้ำ (Mana water) ที่ใช้ทั้งอาคาร คือน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงเอนไซม์ ใช้อาบจากฝักบัวด้วย กลไกการเพิ่มแรงดันทำให้กลุ่มโมเลกุลของน้ำประปา ถูกแรงกระทำให้ละเอียดยิ่งขึ้น เกิดการดูดและกระแทกสลายสารที่อาจเป็นอันตรายออกไป และเปลี่ยนน้ำให้เข้าใกล้น้ำในธรรมชาติที่สดสะอาดปลอดภัย
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/IMG_6606-1024x768.jpeg)
ชาร์จประจุไฟฟ้าสถิตย์ได้นาน 6 ชั่วโมง ให้คงไว้
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
นอกจากนั้นพลังไฟฟ้าสถิตย์จะถูกชาร์จเข้าไปในโมเลกุลของน้ำซึ่งผ่านเครื่องกระตุ้นนั้นนานเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งมันจะเร่งการสลายตัวของรำข้าวที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ การให้น้ำที่มีประจุไฟฟ้าสถิตกับจุลินทรีย์ยังจะช่วยเพิ่มแรงสั่นสะเทือน ทำให้ได้เอนไซม์รำข้าวที่ทรงพลัง มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วย สปารำข้าวต้นตำหรับ Nuka Heaven ที่เมืองมิกิ จังหวัดเฮียวโกะ ก็ใช้น้ำที่ผ่านเครื่องกระตุ้นชาร์จไฟฟ้าพลังสถิตย์ขนาดใหญ่ด้วย
![](https://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/IMG_6583-1-1024x768.jpg)
บดถ่านจากกิ่งก้านเฮมป์ (กัญชง) ให้เป็นผงละเอียด
![](http://salabran.com/wp-content/uploads/2021/12/1B8B1F24-A106-4B90-98B3-2C4646235BE5_1_201_a-300x221.jpeg)
ผงถ่านกัญชงที่ใส่ในเอนไซม์รำข้าว เป็นถ่านที่มีคุณภาพสูง ที่เรากำลังทำการทดลองและวางแผนจะใช้กับการหมักเอนไซม์รำข้าวต่อไปในอนาคตอีกด้วย
Updated plan & price
How to use our enzyme bath